แก้เวลาเพื้ยนระหว่าง OSX กับ Windows XP

กันยายน 29, 2009
ตอบตอบ: Sat Jun 17, 2006 12:11 am ชื่อกระทู้: วิธีการแก้ไขเวลาที่เพี้ยนไปเวลาใช้ Bootcamp สลับ OS ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เนื่องจากเพิ่งมีน้องที่ออฟฟิตออก macbook pro มาใหม่ แล้วลง windows xp แล้วเจอปัญหาเวลาไม่ตรงกัน (อีกแล้ว) แก้ตามวิธีที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนๆ ก็ไม่หาย

เลยต้องเดือดร้อนผมไปหาวิธีแก้ใหม่จนเจอ เรามาดูสาเหตุและวิธีแก้กันเลยดีกว่า

ที่มาและสาเหตุ

Windows XP และ Mac OS.X ต่างเก็บข้อมูลเวลาที่ต่างกัน โดยที่ MacOS.X จะเก็บข้อมูลเวลาบน bios (หรือ EFI) เป็นแบบ Universal หรือที่เรียกว่า GMT แล้วตัว OS เอง จะเป็นผู้ convert ให้เป็นตาม Timezone ที่เราตั้งไว้ ของบ้านเราก็คือ GMT+7 ส่วน Windows XP จะเก็บข้อมูลเวลาท้องถิ่น ไว้ใน BIOS เลย ดังนั้น สมมติตินนี้ ในบ้านเราเป็น 7 โมงเช้า เราเข้า Mac OS เวลาใน Mac OS จะเป็น 7 โมงเช้า แต่ใน BIOS จะบันทึกเป็น เที่ยงคืน พอเราเข้า Windows XP ตัว XP ก็จะอ่านเวลานี้มา ใน Windows เราก็จะกลายเป็น เที่ยงคืน แต่พอเราต่อ Internet ตัว Windows XP ก็จะ set ตาม internet time ก็เป็น 7 โมง (กว่าๆ) พอเรา กลับมาเข้า OS.X เครื่องก็จะอ่านเวลา ว่าเป็น 7+7 = 14 น. กว่าๆ จนกระทั่งเราต่อ Internet ก็จะถูก set กลับไป เป็นเช่นนี้เรื่อยไป

ทางแก้ไข

วิธีการแก้ไข ก็คือเราก็ไปบอก Windows XP ซะว่า เวลาจะ save เวลาลงไปใน BIOS ให้ save เป็นแบบ Universal นะจ๊ะ วิธีการทำก็ต้องแก้ registry กันเล็กน้อยครับ โดยพิมพ์ regedit ที่ RUN แล้วหา key ที่ชื่อว่า

HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\
Control\TimeZoneInformation

(อันนี้อยู่บรรทัดเดียวกันนะครับ)

แล้วก็เข้าไปหาฝั่งขวา หัวข้อ RealTimeIsUniversal (ถ้าไม่มีก็สร้างขึ้นมา แบบ DWORD นะครับ) แล้วก็ แก้เป็น 1 ครับ

ปิด regedit แล้ว reboot XP ก็เสร็จครับ คราวนี้ จะ boot กี่ทีๆ เวลาของเราก็จะตรงแล้วครับ

(คำเตือน การแก้ไข registry มีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณ)

หรือใครขี้เกียจเข้าไปแก้ registry ก็สามารถโหลดไฟล์ตรงนี้ไป แล้วรันใน windows แทนก็ได้ครับง่ายๆ ครับ

หลังจากนั้น เข้า Windows XP –> Control Panel –> Date & Time แล้วเข้าไปปิด Internet Time Update ซะ เพราะ ตัวนี้ มันจะไปเปลี่ยนเวลาใน BIOS ตาม Timezone เสมอ ไม่ว่าเราจะแก้ registry ยังไงก็ตาม ปิดมันซะ แล้วก็ update เวลาใน OS.X ก็พอครับ

แต่ถ้ามีการ sleep ใน Windows พอตื่นมา เวลาก็เพี้ยนได้อีกครับ

ที่มา http://freemac.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=10840


nano-chromatic

กันยายน 18, 2008

เหอะๆ ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาเขียน blog เป็นเดือนเลยทีเดียว
พอได้เรื่องไร้สาระ ก็เลยรีบเข้ามาเขียน

วันนี้เกิดครึมอกครึมใจ หลังจากดู TVC ชุด nano-chromatic ของ Apple เลยไปตะเวนหาเพลงตามปกที่มันโชว์อยู่ตามหน้าจอ nano หลากสี กว่าจะได้ครบเล่น เอาเหนื่อยอยู่เหมือนกัน (Apple เปิดตัว iPod ชุดนี้ได้ราวๆ สัปดาห์หนึ่งพอดี)

เพลงที่ว่า ก็มีตามนี้แล

Morning Yearning – Ben Harper – Both Sides of the Gun
D.A.N.C.E – Justice – D.A.N.C.E. EP
Stronger – Kanye West – Graduation
You’re Beautiful – James Blunt – Back to Bedlam
Sunshine – Matt Costa – Song We Sing
The Girls – Calvin harris – I created Disco
Fa-Fa-Fa – Datarock – Datarock Datarock
C’mere – Interpol – Antics
Plenty of Music – New York Dolls – One day it will please us to remember

( เรียงตาม : ชื่อเพลง – ศิลปิน – อัลบั้ม )

แถมท้ายด้วยเพลงที่ใช้ประกอบใน TVC

Bruises – Chairlift – Does you inspire you

รวมเอาไว้ให้โหลดกันไปฟังง่ายๆ ตรงนี้เลย


รีวิว : Super Monkey Ball [iPhone]

สิงหาคม 13, 2008

ได้แรงบันดาลใจอย่างแรงในการอัพเดต iPhone firmware 2.0 ก็มาจากเกมส์นี่แหละ
เลยคันไม้คันมือ อยากจะเขียนรีวิว แบบเล่าสู่กันฟัง (ขออนุญาติท่านเว็บมอนสเตอร์นะครับ)
เผื่อว่า จะยั่วน้ำลายให้คนที่ยังใช้ firmware 1.x กว่าๆ อัพตามๆ กันมา

ขอแบ่งการรีวิวออกเป็น 4 ส่วน ตามนี้นะครับ

1. Graphic 10/10

ถ้าจะพูดว่า super monkeyball เป็นเกมส์ที่ออกมาคู่บารมี firmware 2.0 ก็คงจะไม่เกินไป เพราะไม่ว่าจะตั้งแต่เมื่อตอนประกาศการพัฒนา app ของ firmware 2.0 จนกระทั่งว่า เริ่มจำหน่ายบน appstore Apple ก็เอา super monkey ball มาโปรโมทเป็น app เชิดหน้าชูตา

อีกทั้งยังเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คนที่ยอมอัพมาเป็น 2.0 (อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งแหละ)
ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะกราฟฟิคที่ใช้ความสามารถของ core animation และ character น่ารักของเกมส์นี้

ถึงแม้จะยังดูเหมือนว่า กราฟฟิคของเกมส์ยังดูง่ายๆ และยังสามารถพัฒนาขึ้นได้อีก แต่เมื่อเทียบกับเกมส์อื่นๆ ที่เพิ่งจะออกจำหน่ายบน AppStore เรียกว่า ดีเลยทีเดียว สามารถเอาไปเทียบกับกราฟฟิคเกมส์ console แบบมือถือตัวอื่นๆ อย่าง PSP หรือ NDS ได้สบายๆ (ให้ความรู้สึกว่า เป็นภาพเกมส์ระบบ Console จริงๆ) ผมคิดว่า คงไม่เกินไปที่จะให้เต็ม 10 ครับ

2. Sound 9.5/10

เนื่องจาก เพิ่งได้ลองเล่น ราวๆ ชั่วโมงหนึ่ง อีกทั้งยังเล่นผ่านไปได้ไม่ไกล เลยขออนุญาติรีวิว เฉพาะเท่าที่ได้เล่นนะครับ เสียงดนตรี background ทำออกมาได้ น่ารัก สดใส  ชวนเล่นมาก (อาจจะได้อนิสงค์มาจากการพอร์ตจากเครื่อง console – แต่ตัวผมเองไม่มีโอกาสได้เล่นบนเวอร์ชั่นเครื่อง console) ดนตรีประกอบ loop  ต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด (บางเกมส์ที่ไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียด มักจะปล่อยให้มีช่วงสะดุดตอนที่ loop  ทำให้อารมณ์สะดุดเพราะไอ้ช่วงที่เสียงว่างๆ ได้)  นอกจากนี้ sound fx ออกมา ทำให้ได้อารมณ์ร่วมจริงๆ ยิ่งใส่หูฟังเข้าไปด้วย แทบจะลุ้นตามทุกทีที่เจ้าลิงน้อยจะตกเหว (น้องลิงมันจะร้อง ง้าวๆ เหมือนจะหล่นซะให้ได้เสียจริงๆ)

3. Game play 8 / 10

ดูเหมือนเกมส์นี้เกิดมาเพื่อ iPhone เลยก็ว่าได้ เนื่องจากการควบคุมในเกมส์ใช้ความสามารถของ Accelerometer  ของ iPhone ออกมาได้เต็มที่ แถมการบังคับทำออกมาได้อย่างลื่นไหล เหมือนกับเรากำลังกลิ้งลูกกลิ้งอยู่บนถาดเลยทีเดียว แต่ก็สร้างความลำบากใจให้กับผมไม่น้อย ตอนเริ่มแรกเล่น ตั้งอาศัยเวลาซักพักถึงจะบังคับเข้าที่เข้าทาง


ปัญหาการบังคับอย่างหนึ่งที่ผมเจอกับตัวเองคือ สายหูฟังที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ มันจะไปเกะกะมือเราเวลาเล่น

กับไอ้เจ้าตัว Accelerometer ที่ ทำให้การบังคับมี ข้อจำกัด บังคับว่าผู้เล่นต้องนั่งหรือยืนในท่าที่เหมาะสม ครั่นจะนอน(หงาย)เล่น ไม่ได้เลยครับ อีกทั้งมือต้องนิ่งพอสมควรเลย (สำหรับด่านยากๆ )  ดังนั้นจึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่กินเหล้า สูบบุหรี่จัดๆ นะครับ ;b

ส่วนระดับความยากง่ายของเกมส์ทำออกมาได้โหดใช้ได้เลยทีเดียว แบบว่า แค่ด่านแรกๆ บางด่านยังต้องตั้งใจเล่นถึงจะผ่านเลยทีเดียว ความเห็นส่วนตัวผม รู้สีกว่า Sega เอาด่านยากๆ บางด่านออกมาไว้ต้นๆ เกินไป อาจจะทำให้คนเล่นที่ไม่ชำนาญ พลาดเบื่อไปเสียก่อน

4. Value of Money 8/10

ทาง Sega ได้ตั้งค่าตัว super monkey ball ไว้ที่ 9.99 U$ ตกแล้วก็ราวๆ 340 บาท เมื่อเทียบกับ ราคาเกมส์ console เรียกว่า ไม่แพงเลยทีเดียว เพียงแต่ว่า ไม่มีกล่อง คู่มือ สีสวยมาให้ด้วยนี่ซิ ดังนั้นส่วนตัวว่า ราคาน่าจะลดอีกซักนิดเป็น 5~8 U$

5. Overall 9/10

สรุปว่า Super Monkey Ball เป็นเกมส์ที่สามัญประจำเครื่องที่ชาว iPhone ไม่ควรพลาด ถึงแม้ว่า จะไม่ใช่คอเกมส์ครับ

ปล. สำหรับ version ที่มาพร้อมกับยาแก้ไอ สามารถติดต่อขอรับได้ที่นี่ครับ


iPhone firmware 2.0.1

สิงหาคม 12, 2008

เหอะๆ …. ในที่สุดก็อดใจไม่ไหว อัพเดจไปจนได้
ผมอัพเดจจาก 1.1.4 ไปยัง 2.0.1 โดยใช้วิธีทำ custom firmware ด้วย PwnageTool (หรือที่หลายๆคนในเน็ต ชอบเรียกว่า โปรแกรมสัปปะรด

หลังจากสิบนาทีแห่งการรอคอยอันแสนนาน iPhone ผมก็ได้เดินทางมาถึงเวอร์ชั่น 2.0.1
เสร็จแล้วเลยรีบจัดแจกโหลดเกมส์ Monkey ball ที่อยากเล่นลง iPhone ทันทีเลย (อันนี้แทบจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมยอมอัพเดต 2.0.1

หลักจากที่ลองเล่นได้พักหนึ่ง ยอมรับว่า แรกๆ มันก็สนุกดีอยู่หรอก แต่พอผ่านไปซัก 6 ฉาก

โอ …. แทบจะลืมตัวโยนเครื่องทิ้งเลยล่ะ เพราะยากมาก (หรือว่า ผมแก่เกินวัยกว่า)

ส่วนอื่นๆ ที่แรกประทับใจบน 2.0.1 นี่ เห็นจะเป็นโปรแกรม mail ที่สามารถอ่านไฟล์ powerpoint ได้แล้ว และทำให้ผมทำงานสะดวกขึ้น เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ชอบส่งอีเมล์มาเป็น powerpoint

กับ Contact ใน Phone ที่เราสามารถ search ชื่อได้

แต่มีจุดดี ก็ต้องมีเสีย ผมต้องยอมเสียบางอย่างใน 1.1.4 ไปหลายตัวอยู่เหมือนกัน เช่น  keyboard ไทย,  Mobile chat, ธีม ไอคอน  แถม Installer ยังใช้ไม่ได้อีก T-T

เอาหน่า …. คนเราต้องเดินหน้า จะอยู่กับ 1.1.4 อย่างเดียวได้ไง ใช่ม้า~~~

สำหรับเพื่อนๆ ร่วมออฟฟิตที่สนใจอยากจะตามมาใช้ ตอนนี้ท่านสามารถมาอัพเดตได้ที่ผมแล้วนะครับ



เฮ้ย!! iPhone 3G ถูกไม่จริงนิหว่า !?

กรกฎาคม 4, 2008

(จาก ilounge.com) ตามที่ Apple เคยประกาศข่าวถล่มราคา iPhone 3G ที่จะออกมาใหม่ในวันที่ 11 กค. ที่จะถึงนี้ว่าจะมีราคาเพียงแค่ $199 (ประมาณ 6,000 กว่า บาท) ล่าสุดทาง AT&T ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับราคา iPhone 3G ใน USA แล้ว

โดยรุ่น 8GB จะมีราคา $199 และรุ่น 16GB จะมีราคา $299 (ประมาณ 10,000 บาท) แต่……

ราคาที่ว่านั้นน่ะ … เฉพาะสำหรับคนที่เคยซื้อ iPhone ก่อนวันที่ 11 กรกฎาคม และจะต้องต่อสัญญาใหม่กับ AT&Tเป็นเวลา 2 ปี หรือเป็นคนที่ได้รับสิทธิ์ส่วนลดในการอัพเกรดเท่านั้น (คาดว่า น่าจะหมายถึง ลูกค้าเก่าของ AT&T แต่ไม่ได้ใช้ iPhone)

สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ส่วนลด และจะเปิดสัญญาใหม่เป็นเวลาสองปี จะซื้อรุ่น 8GB ได้ในราคา $399 (13,300 บาท) และรุ่น 16GB ราคา $499 (16,600 บาท) ซึ่งก็เท่ากับราคาของ iPhone รุ่นแรกนั่นแหละ

สรุป ถ้าเข้าเมืองไทยจริง ราคาคงยังเท่าเดิม แถมอาจจะแพงกว่า รุ่นแรกอีก …. อุอุ

อ้างอิงจาก :iPhone 3G $399-$699 U.S. price options, 8AM launch announced


Format ของ Harddisk กับปัญหาเพื่อนร่วมโลกคอมพิวเตอร์

มิถุนายน 26, 2008

วันนี้มีน้องที่ออฟฟิคคนหนึ่งเดินหน้าหงุดหงิดมาหาผมที่โต๊ะเลย แล้วบอกว่าเครื่อง PC มองไม่เห็น External Harddisk ตอนแรกไอ้เราก็นึกว่า เกิดเรื่องอีกแล้ว พอร์ต USB ท่าจะเจ๊งอีกแล้ว แต่พอเช็คไป เช็คมา เอ … Harddisk ตัวนี้มันมาจาก OSX นิหน่า ว่าแล้วก็รู้ปัญหาเลยครับ

ปัญหาก็คือ Harddisk ตัวที่ว่านี้ ถูก format เป็นแบบ Mac OSX journal () เลยทำให้ Windows มองไม่เห็น Drive นั้นเอง

เอาล่ะ ทีนี่จะทำยังไงดี ? …. เอาล่ะครับ
เราลองมาดูไอเดียที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อนร่วมโลก(คอมพิวเตอร์)นี้เอง
(ต่อไปจะขอย่อคำว่า “Harddisk” ว่า HDD แทนนะครับ)

วิธีแรก Format HDD ให้เป็น Format แบบ FAT 32
วิธีนี้จะเวิร์คแบบสุดๆ ถ้า HDD ของเรามีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณไม่เกิน 30 GB

ข้อดีคือ ไม่ว่าเราจะเอาไปต่อที่เครื่องคอม ไม่ว่า Windows หรือ Mac ก็จะมองเห็น HDD ตัวนี้ได้โดยทันทีแต่
ข้อเสียคือ เราไม่สามารถที่จะตั้งขนาดของ Drive ได้สูงสุดไม่เกิน 32 GB และไม่สามารถเขียนไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4 GB ลงไปได้
* กรณีกำหนดขนาด Drive ได้ไม่เกิน 32 GB เราอาจจะแก้ปัญหาได้โดยแบ่งเป็น partition ย่อยๆ อย่างเช่น HDD ขนาด 60 GB เราอาจจะแบ่งมันออกเป็น 2 partition (partition ละ 30 GB) แต่วิธีนี้อาจจะไม่สะดวกนัก ถ้า HDD ใหญ่มากๆ เช่น 1 TB (1000 GB) เราจะต้องแบ่งมันย่อยออกเป็น 1000/30 = ประมาณ 34 partition -___-‘

สรุป วิธีนี้จะเวิร์ค ถ้าเราใช้ HDD ที่มีขนาดที่ไม่เกิน 80 GB (ในความคิดผม คือ แบ่ง HDD ออกเป็น 3 partition = 30/30/20 GB แต่ใครอยากใช้ HDD ตัวใหญ่กว่านี้ และขยันสอยกว่านี้ ก็ไม่ผิดกติกาครับ)

(พรุ่งนี้จะมาเขียนต่อ วิธีที่ 2 นะครับ)


โอม…หมุนๆๆ แล้วเปิดโปรแกรมด้วย Sapiens

มิถุนายน 24, 2008

วันก่อนผมแนะนำโปรแกรม launcher เปิดโปรแกรมอย่าง quicksilver ไป น่าจะถูกใจคอสิงห์นักพิมพ์มือไว

วันนี้เลยจะมาแนะนำโปรแกรม launcher อีกตัวที่มีชื่อว่า Sapiens
การเปิดโปรแกรมของ Sapiens ออกจะแปลกกว่า quicksilver ตรงที่ว่าใช้การหมุนๆ เม้าส์เป็นวงกลมเพื่อ activate การทำงานแทนครับ (คลิกเพื่อดาวน์โหลดได้เลยครับ)

ดังนั้นตัวโปรแกรม Sapiens จึงต้องอาศัยเวลาประมาณ 2-3 วัน ในการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาคำนวนการเดาโปรแกรมที่เราต้องการจะเปิด จากรูปจะเห็นว่า สมองกลของ Sapiens จะค่อยเจริญเติบโตจากลิง…ไปเป็น…คน จากคน…จนไปถึงขั้น…มนุษย์ต่างดาวเลย…อุอุ

สม�งกลข�ง Sapiens

หลักการทำงานของ Sapiens มาจากแนวคิดที่ว่า ในบรรดาโปรแกรมที่เราๆ ลงกันอยู่ในเครื่องนี้ ที่ใช้กันบ่อยๆ และจริงๆ มีเพียงไม่ถึง 10 โปรแกรม Sapiens จึงอาศัยหลักนี้ในการคำนวนและดึงเอาโปรแกรมที่เราใช้บ่อยๆ ออกมาให้เราเลือก

แต่ไอ้การหมุนๆ เป็นวงกลมนี่แหละ บางทีทำให้เกิดปัญหาหมุนติดบ้างไม่ติดบ้าง เราสามารถเข้าไปตั้งให้การหมุนวงกลมติดง่ายขึ้นโดย กดที่เครื่องหมายเครื่องมือใต้วงกลมของ Sapiens เลือกหัวข้อ Activation แล้วดันแทบไปทางซ้ายมือสุด Sensitivity ทีนี้​โปรแกรมจะจับการหมุนวงกลมของเราได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีบางคนที่ไม่ถนัดการหมุน อาจจะใช้วิธี Activate โดย Keyboard ได้อีกด้วย เช่น ตั้งที่หัวด้านล่างลงมาว่า ให้ Activate โดย กดปุ่ม Control ติดๆ กัน 2 ที

แต่ในขณะเดียวกันบางคนอาจจะเจอปัญหาหมุนวงกลมแล้วติดง่ายเกินไป หรือไม่ก็ติดแบบไม่ได้ตั้งใจแทน อย่างเช่น เวลาทำงานไป บางคนอาจจะติดหมุนเม้าส์เล่นๆ เป็นวงกลม ดันกลายเป็นการเปิดโปรแกรมไปซะงั้น

หรือยกตัวอย่างสดๆ จากเหตุการณ์จริงที่ออฟฟิตผมบ่ายวันนี้ มีพี่กราฟฟิคที่เขานั่งข้างๆ นี้เอาโปรแกรมนี้ไปเล่น พอถึงเวลาเจ้านายมาตรวจงาน คุณเจ้านายเขาตรวจๆ แล้วหมุนเม้าส์เป็นวงกลมๆ ตรงจุดที่จะอยากให้แก้ เท่านั้นแหละ Sapiens ติดเข้าให้…จ๊าก…ตกใจปล่อยเม้าส์แทบไม่ทัน – -‘

ยังดีที่เจ้าของโปรแกรมรู้ทันปัญหานี้ครับ เลยออกแบบให้มี option ที่สามารถปิดไม่ให้ระบบหมุนๆ ทำงาน เวลาเราเปิดบ้างโปรแกรมไว้ด้านหน้าสุด เราสามารถเข้าไปตั้งค่านี้โดย เลือกเครื่องหมายเครื่องมือใต้วงกลมของ Sapiens แล้วเข้าไปแทบ Activation แล้วก็เข้าไปตรง Advanced Settings… ให้กดเครื่องหมายบวก เพื่อเพิ่มโปรแกรมที่เราอยากจะให้ยกเว้นการจับการหมุนของเม้าส์ครับ

ยังไม่จบครับ … ที่นี้บางคนเพิ่มจะลงโปรแกรมนี้ไปตอนแรก อาจจะมีคำถามว่า อ้าว … ถ้าเกิดเวลาเราเปิดเจ้า Sapiens มาแล้วแต่มันดันสมองน้อยไม่ได้ดึงโปรแกรมที่เราจะเปิดขึ้นมา เราจะทำยังไงดี

ทางผู้ผลิต ก็ยังใจดี คิดดักไว้ให้ล่วงหน้า โดยมี option การ key-in การพิมพ์เพื่อเปิดโปรแกรม เหมือนกับของ Quicksilver มาให้ด้วย ยกตัวอย่างว่า ผมอยากจะเปิดโปรแกรม text editor แค่ผมพิมพ์คำว่า te… ลงไป​ เจ้า Sapiens ก็รู้ใจดันเอา text editor ขึ้นมาให้เลือกเลยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าคงจะสนุกกับการเปิดโปรแกรมบนแมคกันมาขึ้นนะครับ … เด๋วขอตัวไปหมุนๆ ก่อนนะครับ … อิอิ


เปิดโปรแกรมทันใจด้วย Quicksilver

มิถุนายน 19, 2008

โดยปกติ เราจะเปิดโปรแกรมต่างๆ ได้โดยการคลิกจาก dock ที่อยู่ด้านล่างของ mac OSX

ซึ่งบางคนที่ถนัดๆ ใช้ short-cut หรือใช้เครื่อง notebook ที่ต้องใช้ keyboard เป็นหลัก อาจจะเบื่อ ไม่อยากเอื้อมมือที่พิมพ์อยู่ เพื่อไปลากเม้าส์หรือ tap pad มาคลิกเปิดโปรแกรมจาก dock ดังนั้นวันนี้เราขอเสนอโปรแกรม launcher ที่จะช่วยเปิดโปรแกรมได้ไว้ทันใจ ที่สำคัญ ฟรี ครับ

โปรแกรมที่ว่านี้ มีชื่อว่า Quicksilver สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บ Blacktree

วิธีใช้ก็แสนง่ายเพียงแค่ download และ installer ลงเป็นเครื่อง

โปรแกรมจะให้ตั้งค่าเบี้องต้นเล็กน้อย และปุ่มที่จะใช้ launch โปรแกรม (ผมตั้งเป็นปุ่ม Home)
หลังจากนั้นก็เริ่มใช้งานได้เลยครับ

พอกดปุ่ม Home เราจะเห็น dialog box ของ quicksilver กระเด้งขึ้นมา ให้เราพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่เราอยากจะเปิดใช้ลงไป ในที่นี้ผมลองเรียก illustrator โดยพิมพ์คำว่า illustrator ลงไป

จะเห็นว่า แค่เราพิมพ์ว่า ill… โปรแกรมก็จะดึงชื่อโปรแกรม illustrator ของเราขึ้นมาให้เลือกเลย ทีนี่แค่เรากด enter ไปก็จะเป็นเปิดโปรแกรมครับ

แต่ในช่วงแรกๆ ของการใช้ บางครั้งเราอาจจะเจอปัญหาที่ Quicksilver จะดึงเอาโปรแกรมที่เราไม่อยากได้ขึ้นมา ผมยกตัวอย่างเครื่องของผมที่มี illustrator ลงไว้ 2 เวอร์ชั่น เมื่อพิมพ์คำว่า illustrator ไปก็เลยเจอปัญหาที่มันไปดึงเอา illustrator 10 ขึ้นมาทั้งที่ผมไม่อยากได้แบบนี้

ก็ให้เรารอไปซักพักหนึ่ง ก็จะเห็นแถบด้านขวาขึ้นตามมา ให้เราเลือกโปรแกรมที่อยากจะได้จริงๆ ที่นี่เราก็แค่เลือกโดยใช้ปุ่มลูกศรลงแล้ว enter เราก็จะได้โปรแกรมที่ต้องการเปิดแล้ว นอกจากนี้โปรแกรม Quicksilver จะแอบจำค่าที่เราเลือกเอาไว้ด้วย ทำให้คราวหน้า Quicksilver จะค่อยๆ แอบเลื่อนโปรแกรมที่เราเลือกไว้ครั้งสุดท้ายขึ้นมาบนสุด

หรือถ้าใจร้อนอยากให้ Quicksilver จำค่าเอาไว้เลยก็ทำได้ เพียงคลิกลงไปตรงโปรแกรมที่เราอยากให้เปิด แล้วเลือก “Set as Default for…” ทีนี้เมื่อเราพิมพ์คำว่า ill อีกครั้ง เจ้าโปรแกรม illustrator cs3 ที่เราเลือกก็จะถูกดึงขึ้นมาอันดับแรกเลย

หวังว่าคงจะถูกใจกันนะครับ  ^ ^


Firefox 3 ออกมาให้ใช้แล้ว

มิถุนายน 18, 2008

วันนี้ mozilla เจ้าพ่อแห่ง Browser Cross-platform ได้ออก Firefox 3 ให้เราได้ใช้อย่างเป็นทางการแล้ว

ใครที่ติดใจ Firefox สามารถอัพเดจเป็นเวอร์ชั่นใหม่ได้แล้ววันนี้ที่ firefox.com

ปล. คืนนี้ง่วง ของ่ายๆ สั้นๆ แค่นี้แหละ … เอิ๊กๆๆ